Search Generative Experience รูปแบบการค้นหาใหม่ ที่อาจเปลี่ยน Search Engine ไปตลอดกาล

Search Generative Experience คืออะไร

Google Search Generative Experience (Google SGE) คือ การพัฒนาใหม่ของการค้นหาใน Google ซึ่งนำ AI มาใช้ SGE สามารถให้คำตอบที่รวดเร็ว ถูกต้อง และครอบคลุมต่อคำค้นหาของผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและเข้าใจข้อมูลที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหาผลลัพธ์หลายรายการ

ลองนึกถึงผู้ใช้ที่ค้นหา “วิธีเริ่มต้นสร้างสวนผัก ” ในอดีต ผู้ใช้จะต้องค้นหาข้อมูลจากหลายเว็บไซต์เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน แต่ Google SGE จะให้ภาพรวมที่ละเอียดซึ่งรวมถึง:

• เคล็ดลับการเตรียมตัว: ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกสถานที่ที่เหมาะสม การเตรียมดิน และการเลือกผักที่เหมาะสมกับฤดูกาล
• คู่มือการปลูกทีละขั้นตอน: คำแนะนำในการปลูกเมล็ด ระยะห่างที่เหมาะสม และการรดน้ำ
• คำแนะนำการดูแลรักษา: เคล็ดลับการควบคุมศัตรูพืช การให้ปุ๋ย และการดูแลสวนทั่วไป
• ทรัพยากรเพิ่มเติม: ลิงก์ไปยังวิดีโอ บทความละเอียด และบล็อกของผู้เชี่ยวชาญสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมในด้านเฉพาะ

Search Generative Experience ทำงานอย่างไร?

Google SGE ใช้เทคโนโลยี Large Language Models (LLMs) หลายโมเดล โมเดลเหล่านี้ทำงานควบคู่กับระบบการจัดอันดับของ Google เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์และน่าเชื่อถือที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้

LLMs คืออะไร?

LLMs คือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ ที่มีความสามารถในการเข้าใจ เรียนรู้เกี่ยวกับรูปแบบและภาษา จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้รับการฝึกอบรม แล้วสามารถสร้างผลลัพธ์ใหม่ที่สอดคล้องสำหรับอินพุตที่มนุษย์กำหนดมา ตัวอย่างเช่น ถ้าเราให้ข้อความว่า “อย่าตัดสินหนังสือจาก” มันจะทำนายคำถัดไปและมีแนวโน้มที่จะเป็น “ปก”

LLMs ประกอบด้วยส่วนสำคัญสามส่วนคือ ข้อมูล สถาปัตยกรรม (โครงข่ายประสาทเทียมแบบแปลง) และการฝึกอบรม สถาปัตยกรรมช่วยให้โมเดลสามารถจัดการกับลำดับของข้อมูลได้ เช่น บรรทัดของรหัสหรือประโยคข้อความ ส่วนการฝึกอบรมเป็นกระบวนการที่โมเดลเรียนรู้ที่จะทำนายคำถัดไปในประโยค โมเดลจะทำการปรับปรุงการทำนายของมันจนกว่าจะมีความน่าเชื่อถือในการสร้างประโยค

LLMs ถูกนำไปใช้งานเพื่อสร้าง Generative AI ซึ่งเป็น AI ที่นำข้อมูลมาสามารถสร้างสิ่งใหม่ๆ เช่น การสรุป การแปล เขียนบทความ สร้างรูปภาพ โดยตัวอย่างของ Generative AI ที่เราคุ้นเคยก็คือ Chat GPT และ Google’s Gemini ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย LLMs ที่ทรงพลัง

LLMs ใดที่สนับสนุน Google SGE?

Google SGE ใช้ LLMs หลายโมเดล รวมถึงเวอร์ชันขั้นสูงของ Multitask Unified Model (MUM), PaLM2, LaMDA และอื่นๆ LLMs ทั้งหมดได้รับการฝึกอบรมจากข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม มี LLMs 2 โมเดลที่มีอิทธิพลต่อ Google SGE อย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนี้

Google’s Multitask Unified Model (MUM) | ได้รับการฝึกอบรมในกว่า 75 ภาษาและได้ถูกนำมาใช้ใน Google Search เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การค้นหา ยกตัวอย่างเช่น โมเดลนี้ถูกใช้เพื่อระบุหัวข้อที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาวิดีโอแม้ว่าหัวข้อจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงโดยตรง

PaLM 2 | เป็นโมเดลภาษาที่มีความเชี่ยวชาญในหลายภาษา การให้เหตุผล และการเขียนโค้ด นี่เป็นเพราะมันได้รับการฝึกอบรมอย่างมากจากข้อความหลายภาษา ข้อมูลวิทยาศาสตร์เชิงลึก และชุดข้อมูลโค้ดสาธารณะที่มีอยู่มากมาย

AI Overviews : Google Search Generative เวอร์ชั่นล่าสุด

ล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2024 Google เปิดตัว ” AI Overviews” ซึ่งเป็น Google SGE เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมฟีเจอร์สุดว๊าว ที่จะทำให้การค้นหาข้อมูลไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยมีฟีเจอร์เด่น ตามวิดิโอข้างล่าง

ฟีเจอร์เด่น

ตอบคำถามที่ซับซ้อน

AI Overviews มีความสามารถในการใช้เหตุผลแบบหลายขั้นตอน จึงตอบคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้น แทนที่จะต้องแยกคำถามของคุณออกเป็นการค้นหาหลายครั้ง คุณสามารถถามคำถามที่ซับซ้อนที่สุดของคุณได้ในครั้งเดียว โดยรวมถึงรายละเอียดและข้อจำกัดต่างๆ ที่คุณมีอยู่ในใจ

ตัวอย่างเช่น คุณอาจกำลังมองหา “สตูดิโอโยคะหรือพิลาทิสใหม่ และคุณต้องการสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่น ตั้งอยู่ใกล้ที่เดินทางสะดวก และมีส่วนลดสำหรับสมาชิกใหม่” ด้วยการค้นหาเพียงครั้งเดียว คุณจะสามารถถามบางสิ่งเช่น “ค้นหาสตูดิโอโยคะหรือพิลาทิสที่ดีที่สุดในบอสตัน และแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับราคาและระยะเวลาเดินจากบีคอนฮิลล์”

โดยความสามารถในการใช้เหตุผลแบบหลายขั้นตอนนี้จะมาถึง AI Overviews ใน Search Labs สำหรับการค้นหาภาษาอังกฤษในสหรัฐฯ

วางแผนล่วงหน้า

ด้วยความสามารถในการวางแผนโดยตรงในการค้นหา คุณสามารถได้รับความช่วยเหลือในการสร้างแผนสำหรับสิ่งที่คุณต้องการ

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการวางแผนมื้ออาหารในวันหยุดพักผ่อน ค้นหาบางอย่าง เช่น “สร้างแผนการกินอาหาร 3 วัน โดยเป็นอาหารที่ทำง่าย เหมาะสำหรับช่วงเดินทางในวันหยุดพักผ่อน ” ซึ่งผลที่ได้รับคือ คุณจะได้รับจุดที่มีสูตรอาหารหลากหลายจากทั่วเว็บ

หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง คุณสามารถขอการปรับเปลี่ยนตามที่ต้องการได้ง่ายๆ เช่น เปลี่ยนมื้อเย็นเป็นเมนูมังสวิรัติ เพียงแค่นั้น การค้นหาจะปรับแต่งแผนมื้ออาหารของคุณ ที่ยอดเยี่ยมคือ คุณจะสามารถส่งออกแผนมื้ออาหารของคุณไปยัง Docs หรือ Gmail ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

คิดไอเดียเพื่อหาข้อมูล

ปัจจุบัน เมื่อคุณกำลังมองหาไอเดียใหม่ๆ คุณอาจต้องใช้เวลามากในการค้นหา ระดมข้อมูล และพิจารณาทางเลือกทั้งหมดของคุณ

AI Overviews สามารถช่วยแก้ปัญหาข้างต้นได้ดีขึ้น เมื่อคุณกำลังมองหาไอเดีย AI Overviews จะสร้างสรรค์เพื่อระดมความคิดและสร้างหน้าผลการค้นหาที่ง่ายต่อการสำรวจ คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์และหลายหลาย จัดประเภทภายใต้หัวข้ออย่างเป็นระเบียบและเข้าใจง่าย

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการไอเดียเกี่ยวกับ “ร้านอาหารเพื่อฉลองครบรอบแต่งงาน” AI Overviews จะแสดงแสดงหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณต้องการ เช่น หัวข้อร้านอาหารสุดโรแมนติค , หัวข้อร้านอาหาร Rooftop วิวสวย , ร้านอาหารริมแม่น้ำ ดนตรีสด และ อื่นๆ โดยแต่ละหัวข้อจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เช่น ร้านแนะนำของแต่ละหัวข้อ พร้อมรีวิว รูปถ่ายร้าน หมุดแผนที่ เป็นต้น

ถ่ายวิดีโอและรับความช่วยเหลือจาก AI

การค้นหาคือมากกว่าเพียงแค่คำในกล่องข้อความ บ่อยครั้งที่คำถามของคุณเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเห็นรอบตัวคุณ รวมถึงวัตถุที่เคลื่อนไหว ด้วยความก้าวหน้าในการเข้าใจวิดีโอ เราสามารถยกระดับการค้นหาด้วยภาพไปสู่ระดับใหม่ โดยสามารถถามคำถามด้วยวิดีโอได้

ตัวอย่างเช่น บางทีคุณอาจซื้อ Tablet แล้วพบเหตุการณ์ว่า เวลาเลื่อนนิ้วบนหน้าจอ หน้าจอไม่เลื่อนตามหรือเลื่อนบ้างไม่เลื่อนบ้าง คุณสามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วสอบถาม AI Overview ว่า จะแก้ไขอย่างไร

การค้นหาด้วยวิดีโอจะช่วยประหยัดเวลาและปัญหาในการหาคำที่เหมาะสมเพื่ออธิบายปัญหานี้ และคุณจะได้รับข้อมูลหรือขั้นตอนซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาอย่างละเอียดและรวดเร็ว

สรุป

Google Search Generative Experience คือ การค้นหาข้อมูลรูปแบบใหม่ซึ่งนำเทคโนโลยี AI มาใช้ Google SGE สามารถเข้าใจคำถามที่ซับซ้อน สร้างคำตอบที่ละเอียด ครอบคลุมทุกประเด็นของคำถาม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาและได้รับข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

โมเดล MUM และ PaLM 2 เป็นขุมกำลังหลักที่ถูกนำมาใช้ 2 โมเดลข้างต้นช่วยให้ Google SGE เข้าใจภาษามนุษย์อย่างลึกซิ้ง และสร้างคำตอบที่สอดคล้องกับสิ่งที่ถามได้อย่างรวดเร็ว

แล้วเพื่อนๆล่ะครับ มีความเห็นเกี่ยวกับ SGE อย่างไรบ้าง แสดงความเห็นกันได้นะครับ ขอบคุณครับ